“อัลมอนด์” เรียกได้ว่าเป็นถั่วที่หลาย ๆ คนเลือกทานเป็นอาหารว่าง หรือในยามท้องหิว ๆ ด้วยคุณค่าทางโภชนาการ รวมถึงประโยชน์ที่อัดแน่นแบบไม่เป็นรองใคร จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าถั่วชนิดนี้ถูกนำมาใช้ประโยชน์เป็นทั้งประกอบเมนูอาหาร หรือใช้สกัดเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางต่าง ๆ ด้วย ซึ่งบทความนี้จะมาพูดถึงเรื่องน่ารู้ต่าง ๆ ของพืชนี้กัน

ทำความรู้จักอัลมอนด์ และคุณค่าทางสารอาหารที่มี

อัลมอนด์ กำเนิดขึ้นในแถบตะวันออกกลางแถว แอฟริกาเหนือ และอินเดีย ซึ่งเป็นพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกับแอพพริคอท ลูกพีช เชอร์รี่ ลูกพลัม ลูกพรุน มีรสชาติทั้งแบบขมและแบบหวานขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ โดยส่วนใหญ่สายพันธุ์ที่มีรสชาติขมก็จะนำมาใช้ทำน้ำมันเพิ่มรสชาติอาหาร

ขณะที่พันธุ์รสหวาน ก็จะนำมาทานเล่น หรือเป็นส่วนประกอบเมนูอาหาร ทั้งนี้ ในข้อมูลของ USDA Nutrient Database ที่บอกว่าพืชประเภทนี้มีคุณค่าทางสารอาหารสูงมาก ๆ เมื่อเทียบกับพืชตระกูลถั่วอื่น ตัวอย่างสารอาหาร เช่น โปรตีน วิตามิน ไฟเบอร์ และแร่ธาตุต่าง ๆ สังกะสี โพแทสเซียม แมกนีเซียม วิตามินบี ฯลฯ โดยในอัลมอนด์ 100 กรัม จะให้พลังงาน 579 แคลอรี มีคุณค่าทางโภชนาการที่น่าสนใจ ได้แก่

  • โปรตีน ปริมาณ 21.15 กรัม
  • น้ำตาล ปริมาณ 4.35 กรัม
  • แคลเซียม ปริมาณ 269 มิลลิกรัม
  • ธาตุเหล็ก ปริมาณ 3.71 มิลลิกรัม
  • แมกนีเซียม ปริมาณ 270 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส ปริมาณ 481 มิลลิกรัม
  • เส้นใย ปริมาณ 12.5 กรัม
  • โพแทสเซียม ปริมาณ 733 มิลลิกรัม
  • ไขมัน ปริมาณ 49.93 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต ปริมาณ 21.55 กรัม
  • โซเดียม ปริมาณ 1 มิลลิกรัม
  • โฟเลต ปริมาณ 44 มิลลิกรัม
  • วิตามินอี ปริมาณ 25.63 มิลลิกรัม
  • สังกะสี ปริมาณ 3.12 มิลลิกรัม
  • ไนอะซีน ปริมาณ 3.61 มิลลิกรัม

อัลมอนด์ประโยชน์ที่คนรักสุขภาพต้องรู้

1. ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองมากขึ้น

ส่วนประกอบสำคัญที่มีในถั่วประเภทนี้อย่าง แอลคานิทีน และไรโบฟลาวิน สำคัญต่อระบบประสาทและสมองมาก ๆ พร้อมช่วยกระตุ้นในสมองได้รับการทำงานที่เหมาะสม สามารถจดจำสิ่งต่างๆ ได้ดีมากขึ้น ดังนั้น จึงไม่แปลกหากจะนิยมให้ผู้สูงอายุได้ทานเป็นประจำตามปริมาณเหมาะสม เพราะมีโอกาสที่จะช่วยป้องกันอาการผิดปกติของระบบประสาทและสมองที่เกิดขึ้นมาได้ อัลมอนด์ประโยชน์เยอะมากจริง ๆ

2. ช่วยป้องกันโรคหัวใจ และภาวะหัวใจวาย

ถั่วประเภทนี้ก็ยังมี MUFAs หรือกรดไขมันอิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพมาก ๆ เพราะจะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด นอกจากนี้ ยังมีสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระด้วย ป้องกันโรคภาวะหัวใจวาย โรคหัวใจได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีแต่แร่ธาตุ และวิตามินที่ดีต่อการทำงานของหัวใจอย่าง ทองแดง แมกนีเซียม อาร์จิรีน โพแทสเซียม หรือแคลเซียม ฯลฯ

3. ช่วยให้ระบบลำไส้แข็งแรง

 อัลมอนด์ยังเป็นถั่วที่มีเส้นใยอาหาร มีพรีไบโอติกที่พร้อมปรับสมดุลให้กับลำไส้ เกิดความแข็งแรงมากขึ้น เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส โดนกำจัด การอักเสบที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ก็ทุเลาลง หรือใครไม่เคยเกิดก็จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นมาง่าย ๆ

4. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

อัลมอนด์ประโยชน์ยังไม่หมด เพราะสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วย ใครที่ป่วยเบาหวานควรทานเป็นประจำ เมื่อร่างกายรับเข้าไปแล้วจะเกิดภาวะปล่อยน้ำตาลกลูโคสลดลง น้ำตาลในเลือดจึงไม่เพิ่มสูงเกินไป แต่ทั้งนี้ก็เน้นย้ำว่าควรทานในปริมาณเหมาะสม

5. ช่วยให้เกิดการดูดซึมสารอาหารได้ดี

นอกจากช่วยให้ลำไส้แข็งแรงก็ยังช่วยดูดซึมสารอาหารได้ง่ายมากขึ้นด้วย เพราะไขมันดีจะมาปรับความสมดุลระบบทางเดินอาหาร พร้อมกระตุ้นระบบเผาผลาญ รู้สึกอิ่มเร็ว ช่วยลดน้ำหนักไปในตัว หลายคนที่หิวจึงมักทานถั่วชนิดนี้ในช่วงท้องว่างนั่นเอง

6. ช่วยต้านอาการอักเสบ และต้านมะเร็งได้

อย่าลืมว่าอัลมอนด์ประโยชน์มาจากสารอาหารมากมาย รวมถึงสารแกมมาโทโคฟีรอฟที่ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ใหญ่ ฯลฯ ซึ่งมีผลวิจัยที่พบว่าการทานถั่วประเภทนี้ประจำช่วยลดความเสี่ยงเกิดมะเร็งเต้านมได้ 2 – 3 เท่าเลยทีเดียว

ข้อควรระวังเกี่ยวกับการทานอัลมอนด์

  • ผู้ป่วยที่เป็นโรคไต และนิ่วในไต ไม่เหมาะที่จะทาน เพราะในอัลมอนด์มีสารออกซาเลตสูง ทำให้อาการรุนแรงมากขึ้นได้
  • ด้วยความที่เป็นถั่วประเภทหนึ่ง ดังนั้นคนที่มีอาการแพ้จึงควรเลี่ยงให้ไกล โดยอาการที่พบคือท้องเสีย ปวดท้อง อาเจียน คลื่นไส้ หายใจถี่ กลืนอาหารไม่สะดวก
  • ถั่วประเภทนี้มีไฟเบอร์สูง ทานมาก ๆ เสี่ยงต่ออาการท้องผูก ท้องเสีย หรือท้องเฟ้อได้
  • การทานมากเกินไปจะทำให้ร่างกายได้รับวิตามิน E สูงเกินความจำเป็น ซึ่งในวันหนึ่งควรได้รับ 15 มิลลิกรัมเท่านั้น แต่กินเพียง 1 ถ้วยเต็มจะได้รับวิตามิน E ถึง 45 มิลลิกรัม และหากไปทานร่วมกับอาหารอื่น ๆ เช่น ไข่ ผักปวยเล้ง ธัญพืชโฮลเกรน ฯลฯ ก็จะทำให้เกิดปัญหาร่างกายอ่อนเพลีย ท้องเสีย ตาพร่ามัว เบลอได้

จะเห็นเลยว่า “อัลมอนด์” ช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายแทบจะทุกส่วนด้วยคุณค่าทางสารอาหาร แต่ถึงอย่างไรก็ต้องพึงระวังบางสิ่งบางอย่างตามคำแนะนำข้างต้นด้วย เพื่อลดปัญหาที่มีโอกาสเกิดขึ้นต่อร่างกายได้ ทั้งนี้ ยังสามารถสร้างเมนูที่มาจากถั่วประเภทนี้ได้หลากหลาย เช่น นำไปผสมกับกล้วยและเนย หรือนำไปผสมกับช็อกโกแลตเข้มข้น รวมถึงนำไปรวมกับธัญพืชใส่นมทานเป็นอาหารเช้าอิ่มท้อง ซึ่งหลังจากนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีหลาย ๆ คนเลือกใช้ถั่วนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการประกอบอาหารแสนอร่อยหรือทานเป็นของว่างกันมากขึ้น